Posted on

ผ้าคลุมให้นมที่ดี ควรมีคุณสมบัติแบบไหน

วิธีเลือกผ้าคลุมให้นม

ผ้าคลุมให้นมที่ดี ควรมีคุณสมบัติแบบไหน

วิธีเลือกผ้าคลุมให้นมที่ดีฉบับตัวแม่ให้นมบุตร

วิธีเลือกผ้าคลุมให้นม

หากคุณเป็นคุณแม่ที่กำลังจะมีลูกน้อย การให้นมลูกและการปั้มนมในที่สาธารณะคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน คุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะเป็นกังวลในเรื่องนี้ อาจจะรู้สึกเขินอายกับผู้คนที่เดินผ่านไปมาหรือเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน แต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในปัจจุบันนี้ เราสามารถเลือกซื้อผ้าคลุมให้นม และ ชุดให้นม มาไว้เป็นตัวช่วยในการให้นมและปั้มนมได้อย่างสะดวกสบาย และไม่ต้องเป็นกังวลเมื่อต้องให้นมหรือปั้มนมนอกบ้านหรือในที่สาธารณะอีกต่อไป คุณแม่จะสามารถให้นมลูกน้อย มีช่วงเวลาดี ๆ และช่วงเวลาที่อบอุ่นกับลูกน้อยได้ทุกที่ทุกเวลา

เพื่อให้คุณแม่มือใหม่เลือกซื้อผ้าคลุมให้นมได้อย่างเหมาะสม เรามาทำความรู้จักผ้าคลุมให้นมแต่ละแบบกันก่อน

ชนิดของผ้าคลุมให้นม มีแบบไหนบ้าง?

ผ้าคลุมให้นมที่ใช้กันทั่วไป จะมีหลัก ๆ 2 แบบด้วยกัน โดยแต่ละชนิดจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน คุณแม่สามารถเลือกใช้ตามความชอบและความถนัดของตัวเองได้เลย

  1. ผ้าคลุมให้นมแบบครึ่งตัวหรือแบบผ้ากันเปื้อน ผ้าคลุมให้นม แบบครึ่งตัวหรือแบบผ้ากันเปื้อน จะมีลักษณะเป็นผ้าชิ้นเดียวบังเฉพาะด้านหน้า และมีสายคล้องรอบคอคุณแม่ คล้ายผ้ากันเปื้อน ส่วนใหญ่ผ้าคลุมให้นมแบบนี้จะมีโครงพลาสติกบริเวณคอ เพื่อให้สามารถมองเห็นลูกได้ง่าย

    ข้อดี : ใช้งานง่าย สวมใส่สบาย และไม่ร้อน

    ข้อเสีย : คุณแม่อาจจะต้องคอยระมัดระวังและคอยเอาผ้าคลุมขึ้นมาคลุมบนบ่า เพื่อไม่ให้โป๊ด้านข้าง และผ้าคลุมให้นมแบบนี้มักจะดูไม่ค่อยสวยงามเท่าผ้าคลุมให้นมแบบเต็มตัว และอาจไม่ค่อยเหมาะกับการใช้คลุมปั้มนม เนื่องจากอาจจะโป๊ด้านข้างได้

  2. ผ้าคลุมให้นมแบบเต็มตัว ผ้าคลุมให้นม แบบเต็มตัว จะคลุมทั้งด้านหน้าและด้านหลังของคุณแม่ ช่วยปิดบังการให้นมหรือการปั้มนมของคุณแม่ได้มิดชิดรอบทิศทาง จะมีช่องตรงกลางผ้า ใช้สำหรับสวมผ้าทางศีรษะ หรืออาจมีการออกแบบผ้าคลุมให้นมให้มีกระดุม เพื่อให้คุณแม่สามารถสวมใส่ได้สะดวก ไม่ต้องสวมทางศีรษะ ผ้าคลุมให้นมแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่มีโครงพลาสติกบริเวณคอ

    ข้อดี : ปกคลุมมิดชิด ไม่โป๊ เมื่อคลุมให้นมแล้วจะดูสวยงามกว่าผ้าคลุมให้นมแบบครึ่งตัว และสามารถใช้คลุมปั้มนมได้ด้วย

    ข้อเสีย : หากคุณแม่เลือกผ้าคลุมให้นมที่ผ้าค่อนข้างหนาและทึบ อาจทำให้ร้อนอบใต้ผ้าคลุม ลูกอาจอึดอัด และมีปัญหาไม่ยอมเข้าเต้า คอยผลักหรือเตะผ้าคลุมให้นม

เทคนิคการเลือกผ้าคลุมให้นมฉบับตัวแม่ให้นมบุตร

การเลือกผ้าคลุมให้นม ควรเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานและเหมาะสมกับ life style ของคุณแม่ แต่ก็ต้องคำนึงถึงลูกน้อยด้วย เพราะผ้าคลุมให้นม เป็นผ้าที่ต้องใช้งานร่วมกันทั้งคุณแม่และเจ้าตัวน้อย เรามาดูกันว่าการเลือกผ้าคลุมให้นมนั้น คุณแม่ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

  1. เนื้อผ้าของผ้าคลุมให้นมต้องนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี อ่อนโยนต่อผิวลูกน้อย
    สิ่งแรกที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อผ้าคลุมให้นมนั่นก็คือเรื่องเนื้อผ้า ผ้าคลุมให้นมจะสัมผัสผิวของทั้งคุณแม่และของลูกน้อยตลอดเวลา ดังนั้นผ้าคลุมให้นมจึงควรมีเนื้อผ้าที่สัมผัสนุ่มสบาย ไม่สาก ไม่แข็งกระด้าง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสีและการระคายเคืองให้กับเจ้าตัวน้อย และระหว่างการให้นม คุณแม่จะต้องอุ้มลูกแนบกับตัวคุณแม่ตลอดเวลา เนื้อผ้าของผ้าคลุมให้นมจึงควรต้องโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่ทึบไม่หนาจนเกินไป ลูกน้อยจะได้ไม่ร้อนอบและไม่อึดอัดใต้ผ้าคลุมให้นม

    คุณแม่บางท่านประสบปัญหาลูกไม่ยอมเข้าเต้า หลาย ๆ ครั้งเกิดจากการใช้ผ้าคลุมให้นมที่ไม่เหมาะสม เนื้อผ้าอาจหนาทึบไม่ระบายอากาศจนเกินไป จึงทำให้ลูกน้อยอึดอัด ร้อนอบใต้ผ้าคลุม และต่อต้านการเข้าเต้าในที่สุด เพียงแค่เปลี่ยนเป็นผ้าคลุมให้นมที่มีเนื้อผ้านุ่ม โปร่งสบาย ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ แต่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงผ้าคลุมให้นมที่ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) หรือเส้นใยสังเคราะห์ (Synthetic Fiber) เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดไฟฟ้าสถิต

  2. ขนาดของผ้าคลุมให้นม ควรมีขนาดและความยาวที่เหมาะสม
    ถึงแม้ผ้าคลุมให้นมส่วนใหญ่จะเป็นฟรีไซซ์ คุณแม่ควรต้องลองและเลือกผ้าคลุมให้นมให้มีขนาดกำลังพอดีเหมาะสมกับขนาดตัวของคุณแม่
    • ความกว้างของผ้าคลุมให้นม : ความกว้างของผ้าคลุมให้นมที่พอดี เมื่อคุณแม่คลุมแล้ว ควรสามารถกางข้อศอกไปด้านข้างได้สบาย ๆ และไม่อึดอัดบริเวณหน้าอก
    • ความยาวของผ้าคลุมให้นม : ความยาวของผ้าคลุมให้นมไม่จำเป็นต้องยาวมากนัก เมื่อคุณแม่นั่งให้นมหรือปั้มนม ชายผ้าคลุมควรอยู่ที่บริเวณเอวและหน้าตัก ไม่จำเป็นต้องยาวคลุมหน้าขา เพราะจะรุ่มร่ามพะรุงพะรังจนเกินไป
    • ความกว้างและความลึกของช่วงคอ : คุณแม่ควรลองสวมผ้าคลุมให้นม และเลือกผืนที่ช่วงคอกว้างและลึกกำลังพอดีกับตัวคุณแม่ โดยเฉพาะผ้าคลุมให้นมที่มีโครงพลาสติกบริเวณคอ มักจะกว้างและลึกมากกว่าปกติเพื่อให้คุณแม่สามารถก้มมองเห็นลูกได้

  3. แบบของผ้าคลุมให้นม ควรเหมาะสมและตอบโจทย์ life style ของคุณแม่
    ผ้าคลุมให้นมถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน ต้องพกติดตัวและต้องใช้งานแทบจะตลอดเวลา เพราะนอกจากจะใช้คลุมให้นมลูกแล้ว ยังต้องใช้คลุมปั้มนมอีกด้วย การเลือกใช้ผ้าคลุมให้นมที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสมกับ life style ของคุณแม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณแม่สามารถให้นมลูกได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณแม่เมื่อต้องให้นมหรือปั้มนมในที่สาธารณะ เพราะเราไม่สามารถเลี้ยงลูกอยู่แต่ในบ้านได้ตลอด

    ปกติแล้วเพื่อความสะดวกสบายในการหยิบใช้งาน คุณแม่แต่ละท่านจะมีผ้าคลุมให้นมกันคนละหลายผืน อย่างน้อยก็ต้องมี 2 ผืน เพราะต้องเอาไว้สลับซัก และบางทีก็วางไว้ในห้องต่าง ๆ ในบ้าน หรือมีทั้งที่บ้าน ในรถ และที่ทำงาน ผ้าคลุมให้นมที่ใช้ที่บ้าน อาจเป็นแบบครึ่งตัวหรือแบบผ้ากันเปื้อน เพื่อให้สวมใส่ได้ง่าย คล่องตัว ไม่ต้องปกปิดมิดชิดมากนักเนื่องจากอยู่ที่บ้าน แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานหรือต้องออกนอกบ้านบ่อย ๆ อาจเลือกใช้ผ้าคลุมให้นมแบบเต็มตัว ที่คลุมมิดชิดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และหากคุณแม่ต้องปั้มนมในที่ทำงาน อาจเลือกใช้ผ้าคลุมให้นมที่มีกระดุม เพื่อจะได้ดูดี ไม่ต้องสวมผ้าคลุมให้นมทางศีรษะให้ผมเผ้ายุ่งเหยิง

  4. ความอเนกประสงค์ของผ้าคลุมให้นม
    คุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ในปัจจุบัน มักจะมีกิจกรรมนอกบ้าน ผ้าคลุมให้นมซึ่งเป็นผ้าที่คุณแม่ต้องพกติดตัวตลอดอยู่แล้ว จึงควรมีฟังชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยที่ดีให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเลี้ยงลูกนอกบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ผ้าคลุมให้นมบางยี่ห้อถูกออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์เป็นผ้าพาดบ่าได้ ปรับใช้เป็นผ้าห่มบนรถเข็นบน car seat ได้ และปรับใช้เป็นผ้าคลุมบังแดดบนรถเข็นได้ บางยี่ห้อออกแบบผ้าคลุมให้นมให้มี design สวยงาม มีปก มีกระดุมเหมือนใส่เสื้อสวย ๆ ตัวหนึ่ง คุณแม่จะได้ใส่คลุมให้นมหรือปั้มนมได้อย่างมั่นใจไม่เคอะเขิน บางยี่ห้อออกแบบผ้าคลุมให้นม ให้สามารถกางออกมาใช้เป็นผ้าพันคอคุณแม่ได้

สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อย เช่น ผ้าอ้อม ผ้าห่อตัวทารก ผ้าห่มเด็ก และชุดเครื่องนอนคุณภาพดี รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ เช่น ผ้าคลุมให้นม และผ้าพาดบ่าแบบไม่หล่นพื้น ขอแนะนำแบรนด์ Iflin Baby เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ผลิตภัณฑ์ของ Iflin Baby ผลิตจากผ้าอ้อมใยไผ่ ที่ถูกพัฒนาและสั่งทอขึ้นมาเป็น spec พิเศษเฉพาะของแบรนด์ เพื่อให้ได้ผ้าใยไผ่ที่เนื้อละเอียด ทอแน่น ทอหนากำลังพอดี ทอผ้าประกบ 2 ชั้น นุ่ม นิ่ม ลื่น ละมุนผิว ผิวสัมผัสเย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี เนื้อผ้ามีความคงตัว ไม่เละ ไม่ย้วย และไม่เปื่อยขาดง่าย เมื่อนำมาผลิตเป็นผ้าคลุมให้นม จึงเป็นผ้าคลุมให้นมที่ใช้คลุมแล้วไม่ร้อนอบ เนื้อผ้าสัมผัสเย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี สบายตัวทั้งคุณแม่และลูกน้อย ผ้าคลุมให้นมใยไผ่ของ Iflin Baby เป็นแบบคลุมเต็มตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีให้เลือกทั้งแบบสวมศีรษะและแบบติดกระดุม

สนใจรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้าคลุมให้นมใยไผ่ติดต่อ

Line : @iflinbaby
Website : iflinbaby.co
Facebook : iflinbaby
Instagram : iflinbaby

Posted on

เคยสงสัยไหมทำไมคุณแม่ลูกอ่อนต้องมีผ้าพาดบ่าติดตัวตลอดเวลา

ผ้าพาดบ่า

เคยสงสัยไหมทำไมคุณแม่ลูกอ่อนต้องมีผ้าพาดบ่าติดตัวตลอดเวลา

ผ้าพาดบ่า ไอเท็มดี ๆ ที่คุณแม่ทุกคนต้องใช้ เพราะการรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในการเลี้ยงลูก

ผ้าพาดบ่า
ผ้าพาดบ่าเป็นไอเทมที่คุณแม่ลูกอ่อนนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก ไปไหน ๆ ต้องมีผ้าพาดบ่าอยู่บนบ่าเสมอ บางคนอาจสงสัยว่าทำไมคุณแม่ลูกอ่อนถึงต้องมีผ้าพาดบ่าติดตัวตลอดเวลา ประโยชน์ที่แท้จริงของผ้าพาดบ่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
 

ความสำคัญและประโยชน์ของผ้าพาดบ่า

เวลาอุ้มลูก โดยเฉพาะช่วงแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้ผ้าพาดบ่าเสมอ แม้กระทั่ง เวลาคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย หรือญาติ ๆ มาเยี่ยมหลาน หรือถ้าบ้านไหนมีพี่เลี้ยงช่วยเลี้ยงลูก ก็ต้องให้ใช้ผ้าพาดบ่าเวลาอุ้มเบบี๋ตัวน้อย เพราะเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

  1. เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าเราหรือเหงื่อของเรา สัมผัสโดนลูกโดยตรง เพราะผิวลูกบอบบางมาก เด็กบางคนแพ้มลพิษ แพ้ฝุ่น หรือแม้กระทั่งอาจจะแพ้น้ำยาซักผ้าหรือน้ำหอมจากเสื้อผ้าผู้ใหญ่

  2. เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกถูหน้าบนเสื้อผ้าเราที่บางทีเนื้อผ้าอาจจะหยาบกระด้าง ระคายเคืองผิวลูก เช่น เสื้อโปโล เสื้อลูกไม้ หรือกระดุมบนเสื้อเรา

  3. เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้ำลายย้อยหรือแหวะนมใส่เสื้อผ้าเราโดยตรง

  4. เพื่อใช้เช็ดทำความสะอาดหน้า ปาก หรือมือลูก ได้สะดวกและรวดเร็ว
เมื่อก่อน ผ้าที่คุณพ่อคุณแม่ใช้พาดบ่ากัน ก็คือผ้าอ้อม ผ้าอ้อมเป็นผ้าอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ก็จริง แต่เมื่อนำมาใช้เป็นผ้าพาดบ่า มักจะดูพะรุงพะรังไม่สวยงาม และที่สำคัญที่สุดคือมักจะหล่นจากบ่าของเราตลอดเวลา บางทีออกไปนอกบ้าน เช่น พาลูกไปฉีดวัคซีน หรือไปทานข้าวนอกบ้าน ถ้าผ้าพาดบ่าหล่นพื้น เราก็ไม่กล้าเอามาใช้อีก ต้องเปลี่ยนผ้าพาดบ่าผืนใหม่ ทำให้ไม่สะดวกและต้องพกผ้าไปเผื่อหลายผืน
 
Iflin Baby เข้าใจถึงปัญหานี้ดี จึงเป็นแบรนด์แรกที่ริเริ่มออกแบบผ้าพาดบ่า แบบไม่หล่นพื้น และตั้งใจ design ผ้าพาดบ่าของเราให้สามารถปรับใช้งานเป็นผ้าคลุมให้นมสำหรับคุณแม่ และเป็นผ้ากันเปื้อนสำหรับลูกได้ด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาผ้าพาดบ่าหล่นพื้นตลอดเวลา และตอบโจทย์ life style คุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ที่ต้องการตัวช่วยในการเลี้ยงลูกที่ดี มีประโยชน์ คุ้มค่า และสามารถใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์
 

ผ้าพาดบ่า แบบไม่หล่นพื้น ของแบรนด์ Iflin Baby มี 2 แบบด้วยกัน

  1. ผ้าพาดบ่า แบบไม่หล่นพื้น & ผ้าคลุมให้นม (Burp & Nurse) : เป็นผ้าทรงวงกลม เจาะช่องสำหรับสวมศีรษะตรงกลางผ้า มีหูห้อยติดกระดุม 2 ข้าง เวลาใช้งานเป็นผ้าพาดบ่าแบบไม่หล่นพื้น ให้พับผ้าเป็นครึ่งวงกลมพาดบนบ่าและติดกระดุมหูห้อยทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกันที่บริเวณเอวในลักษณะเหมือนสะพายกระเป๋า cross-body และเวลาจะให้นมลูก ก็เพียงแค่กางผ้าออกมาและสวมศีรษะ ก็จะกลายเป็นผ้าคลุมให้นม แบบคลุมเต็มตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นผ้าที่ตอบโจทย์และสะดวกสบายสำหรับคุณแม่มาก เนื่องจากคุณแม่ลูกอ่อนจะใช้ผ้าพาดบ่าและผ้าคลุมให้นมกันตลอดเวลา

  2. ผ้าพาดบ่า แบบไม่หล่นพื้น & ผ้ากันเปื้อน (Burp & Bib) : เป็นผ้าพาดบ่า design พิเศษเฉพาะของ Iflin Baby ถูกออกแบบมาให้ดูเนี๊ยบ ดูดี ขนาดกะทัดรัด ไม่รุ่มร่าม ไม่พะรุงพะรัง และที่สำคัญ มีสายคล้องรอบคอเพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าพาดบ่าหล่นพื้น นอกจากนี้ ผ้าพาดบ่า Burp & Bib ยังมีจุดเด่นเรื่องความนุ่ม เพราะทำจากผ้าประกบ 2 ชั้นและมี padding นุ่ม ๆ บุตรงกลาง เพื่อให้ลูกน้อยสามารถนอนซบหน้าบนบ่าของคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างนุ่มสบาย ไม่โดนกระดูกแข็ง ๆ บนบ่าของคุณพ่อคุณแม่ และเมื่อลูกทานนม ทานขนม หรือทานข้าว คุณแม่สามารถนำผ้าพาดบ่า Burp & Bib ผืนนี้มาใช้เป็นผ้ากันเปื้อนให้ลูกได้ โดยนำมาคลุมไหล่ทั้ง 2 ข้างของลูกและติดกระดุมที่ด้านหลัง และเพียงแค่หมุนให้กระดุมมาอยู่ด้านหน้า ก็จะกลายเป็นผ้าคลุมไหล่น่ารัก ๆ สำหรับลูกน้อย เวลาอากาศเย็น ๆ ได้อีกด้วย
Iflin Baby เป็นแบรนด์แรกที่ริเริ่มและตั้งใจออกแบบผ้าพาดบ่าแบบไม่หล่นพื้นทั้ง 2 แบบนี้ จึงได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร รวมทั้งสิ้น 5 ฉบับ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผ้าพาดบ่าแบบไม่หล่นพื้น ทั้ง 2 แบบนี้ จึงมีจำหน่ายที่ Iflin Baby แบรนด์เดียวเท่านั้น

ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผ้าพาดบ่าหรือของใช้จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิดและเครื่องนอนเด็ก ได้ที่

Line : @iflinbaby
Website : iflinbaby.co
Facebook : iflinbaby
Instagram : iflinbaby

Posted on

เช็กลิสต์เครื่องนอน หมอนเด็กแรกเกิด สำหรับเด็กแรกเกิดที่จำเป็น

หมอนเด็กแรกเกิด

เช็กลิสต์เครื่องนอน หมอนเด็กแรกเกิด สำหรับเด็กแรกเกิดที่จำเป็น เตรียมพร้อมก่อนคลอดที่คุณแม่ไม่ควรพลาด

เครื่องนอนสำหรับเบบี๋ หมอนเด็กแรกเกิด ผ้าห่มเด็ก ผ้าปูที่นอน เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและเหมาะสม

หมอนเด็กแรกเกิด

ในปัจจุบัน ข้าวของเครื่องใช้ของเด็กแรกเกิดมีการพัฒนาไปมาก จากสมัยก่อน โดยเฉพาะของใช้กลุ่มเครื่องนอน ซึ่งมีการนำวัสดุและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการออกแบบและการผลิตเครื่องนอนของเด็กแรกเกิด เพื่อแก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

Iflin Baby ขอช่วยแนะนำเครื่องนอนที่จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิด ที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบและควรเตรียมไว้ให้ลูกน้อย ดังนี้ค่ะ

Check list รายการของใช้จำเป็นกลุ่มเครื่องนอน ที่ต้องเตรียมไว้ให้เบบี๋แรกเกิด

  1. เบาะที่นอนเด็กแรกเกิด
    เด็กแรกเกิดควรมีเตียงหรือที่นอนแยกต่างหากจากที่นอนของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณพ่อคุณแม่เผลอนอนทับลูกขณะนอนหลับ และที่นอนของผู้ใหญ่ก็ไม่เหมาะกับเด็กแรกเกิดด้วย ในปัจจุบัน มีเตียงนอนเด็กแรกเกิดหลายแบบให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ในห้องนอน นอกจากเลือกเตียงนอนแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกเบาะที่นอนที่ดี มีคุณภาพ และปลอดภัย เพราะเบาะที่นอนเป็นสิ่งที่ลูกน้อยจะใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด


    ลักษณะของเบาะที่นอนที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดควรมีสัมผัสนุ่มสบาย แต่ไม่ควรอ่อนยวบจนจม และควรมีความแน่นเฟิร์มในตัว แต่ก็ไม่ควรแข็งจนเกินไป สมัยก่อน วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตเบาะที่นอน มีเพียงแค่ยางพารา โฟม และเมมโมรี่โฟม ซึ่งวัสดุเหล่านี้มีข้อจำกัดหลายเรื่อง เช่น ไม่สามารถโดนน้ำและโดนแดดได้ ไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้ มีกลิ่นสารเคมี เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง มีน้ำหนักมาก และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่สามารถหายใจผ่านได้

    ปัจจุบัน มีการนำเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนาวัสดุที่ใช้ในการผลิตเบาะที่นอนเด็กแรกเกิด เพื่อแก้ปัญหาและลดข้อจำกัดต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และเพื่อให้เบาะที่นอนเด็กมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เบาะที่นอนเด็กที่ดี ควรมีคุณสมบัติดังนี้

    • มีความนุ่มสบายกำลังพอดี ไม่ยวบ ไม่จม และต้องมีความแน่นเฟิร์มในตัวด้วย แต่ต้องไม่แข็งมากจนนอนไม่สบาย
    • ควรมีคุณสมบัติหายใจผ่านได้ เพราะเด็กแรกเกิด คอยังไม่แข็ง ยังไม่สามารถยกหัวหรือพลิกตัวได้ หากบังเอิญหน้าไปกดทับกับที่นอน จะได้ยังสามารถหายใจได้
    • ไม่ควรมีกลิ่นสารเคมี เนื่องจากเบาะที่นอนเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดลูกมาก โดยเฉพาะช่วงแรกเกิดที่ลูกต้องนอนบนเบาะที่นอนแทบจะตลอดเวลา
    • ควรสามารถฉีดน้ำล้างทำความสะอาดและตากแดดได้ เนื่องจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน อาจมีปัสสาวะรดที่นอน หรือทำนมหกใส่ที่นอน


    Iflin Baby ตระหนักถึงความสำคัญของคุณสมบัติที่ดีเหล่านี้ จึงได้ร่วมพัฒนาวัสดุ generation ใหม่กับโรงงานผลิตเบาะที่นอนชั้นนำ ใช้เทคโนโลยีใหม่และเส้นใยชนิดพิเศษมาผลิตเบาะที่นอนเด็กแรกเกิดโดยไม่ใช้สารเคมีในการผลิต เบาะที่นอนของเราจึงไม่มีสารเคมี ไม่มีกลิ่น ไม่เปลี่ยนสี ไม่ปล่อยสารระเหยเคมีออกมา และเราตั้งใจออกแบบโครงสร้างเบาะที่นอนให้เป็นโครงสร้าง 3D หายใจผ่านได้ สามารถใช้งานได้ 2 ด้าน ด้านบนนุ่มนอนสบาย ด้านล่างแน่นเฟิร์ม เพื่อให้เบาะที่นอนของเราทั้งนอนนุ่มสบายและแน่นเฟิร์มในตัว ไม่ยวบ ไม่จม ลงตัวทั้งความนุ่มสบายและความปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถฉีดน้ำล้างทำความสะอาดได้ด้วย

  2. ผ้าปูที่นอน
    ผ้าปูที่นอนเด็กควรเป็นชิ้นแยกต่างหากจากที่นอน เพื่อให้สะดวกในการถอดซักทำความสะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็ก ๆ ผ้าปูที่นอนเด็กควรเป็นแบบมีขอบยางยืดรัดโดยรอบเบาะที่นอน เพื่อให้ผ้าปูที่นอนกระชับและไม่หลวมหลุดง่าย เนื้อผ้าของผ้าปูที่นอนก็มีให้เลือกหลากหลาย ราคาแตกต่างกันไปตามคุณภาพวัตถุดิบที่ใช้และคุณภาพการทอผ้า คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมผ้าปูที่นอนไว้เผื่อ 2-3 ผืน เอาไว้สลับซัก

    Iflin Baby อยากให้เด็กๆ มีความสุขกับการนอน และนอนหลับสบาย เราจึงคิดนอกกรอบ ออกแบบผ้าปูที่นอนของเราให้แตกต่างจากผ้าปูที่นอนทั่วๆ ไป โดยมีการเสริมเส้นใยนุ่มๆ ด้านบนผ้าปูที่นอน เพื่อเพิ่มความนุ่มนอนสบายเสมือนนอนบน topper นุ่มๆ ตลอดเวลา

  3. ผ้าห่มเด็กและถุงนอนเด็ก
    ผ้าห่ม เด็กแรกเกิด มีหลัก ๆ 2 แบบด้วยกัน
    1. ผ้าห่ม
      • เป็นผ้าห่มสี่เหลี่ยมตามปกติ
      • ข้อดีของผ้าห่มแบบนี้ คือมีความอเนกประสงค์ ใช้งานได้นาน พกพาไปห่มบนรถเข็น หรือ car seat ได้
      • แต่คุณพ่อคุณแม่บางท่าน อาจมีความกังวลเรื่องผ้าห่มอาจขึ้นมาคลุมหน้าลูกระหว่างนอนหลับหรือลูกชอบถีบผ้าห่มออก บางบ้านจึงใช้ถุงนอนแทนผ้าห่ม

    2. ถุงนอน
      • เนื้อผ้าเหมือนผ้าห่ม แต่ตัดเย็บเป็นทรงถุงนอนมีซิปรูดเปิดปิด เวลาใช้งานเป็นถุงนอนจะมีทั้งผ้าปูรองนอนและผ้าห่มในตัว
      • ถุงนอนอาจมีมาพร้อมหมอนหนุน เพื่อให้สามารถใช้เป็นเซตที่นอนพกพาได้
      • ส่วนใหญ่ถุงนอนจะสามารถกางออกมาใช้เป็นผ้าห่มได้ด้วย
      • ข้อดีของถุงนอน คือมีฟังก์ชันการใช้งานที่มากกว่าผ้าห่มธรรมดา สามารถช่วยลดการนอนถีบผ้าห่ม ช่วยลดโอกาสที่ผ้าห่มจะขึ้นมาคลุมหน้าลูกระหว่างนอนหลับ และสามารถใช้เป็นที่นอนพกพาได้ ใช้ปูรองนอนได้ทุกที่ สะดวกสบายและสะอาด

  4. หมอนหนุน
    หมอนหนุน เด็กแรกเกิด เป็นเครื่องนอนอีกชิ้นที่สำคัญมาก หมอนหนุนของเด็กแรกเกิดควรมีลักษณะเรียบๆ แบนๆ เตี้ยๆ ไม่ฟู ไม่จม สามารถแบ่งได้หลัก ๆ 3 แบบ

     

    1. หมอนหลุม : หมอนจะถูกตัดเย็บให้แบนและเป็นหลุมตรงกลาง เพื่อช่วยเสริมให้ศีรษะเด็กทุยสวย แต่หากคุณพ่อคุณแม่ชะล่าใจให้ลูกนอนหงายตลอดเวลา ศีรษะก็อาจจะแบนได้เหมือนกัน ดังนั้นคุณหมอจึงมักแนะนำให้ใช้วิธีการจัดท่านอนแทน คือให้ลูกนอนหงายแต่หันหน้าไปทางซ้ายและขวาสลับกัน หรืออาจให้นอนตะแคงก็ได้

    2. หมอนหายใจผ่านได้ : ปัจจุบันทางการแพทย์ไม่แนะนำให้เด็กแรกเกิดนอนคว่ำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากเป็นกังวลเรื่องการขาดอากาศหายใจ หรือที่รู้จักกันดีในนามโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) เนื่องจากคอของทารกแรกเกิดยังไม่แข็ง ยังไม่สามารถยกคอหรือพลิกศีรษะเองได้ นอกจากหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำแล้ว วัสดุที่ใช้ในการผลิตหมอนหนุนในปัจจุบัน ก็นิยมใช้เป็นวัสดุรุ่นใหม่ที่สามารถหายใจผ่านได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการนอนหลับของทารกแรกเกิด

      Iflin Baby คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กๆ เป็นสำคัญ จึงได้พัฒนาหมอนหนุนหายใจผ่านได้ขึ้นมา โดยใช้เทคโนโลยีใหม่และเส้นใยชนิดพิเศษเหมือนกับเบาะที่นอนของเรา โดยไม่ใช้สารเคมีในการผลิต ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่ปล่อยสารระเหยเคมีออกมาระหว่างการใช้งาน โครงสร้าง 3D หายใจผ่านได้ และซักล้างได้ มีลักษณะเป็นทรงเรียบๆ แบนๆ นุ่มสบายกำลังพอดี ไม่แข็ง ไม่ยวบ ไม่จม

    3. หมอนอื่น ๆ : หมอนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 2 ชนิดข้างต้น ส่วนใหญ่แล้วไส้หมอนจะเป็นนุ่น เส้นใยสังเคราะห์ ยางพารา Memory foam หรือ Microfiber การเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละครอบครัวว่าชอบสัมผัสแบบไหน แต่ส่วนใหญ่หมอนเหล่านี้จะเหมาะกับเด็กโต 1 ขวบขึ้นไป เพราะเด็กโต 1 ขวบขึ้นไป จะไม่จำเป็นต้องใช้หมอน 2 ชนิดด้านบน และสามารถเลือกใช้หมอนได้ตามความชอบและตามขนาดที่เหมาะสม

  5. หมอนข้าง
    ใครว่าหมอนข้างไม่จำเป็น!! หมอนข้างเป็นหนึ่งในเครื่องนอนที่เด็ก ๆ ติดมากที่สุดรองจากผ้าห่ม ช่วงแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้หมอนข้างเป็นหมอนดันหลังเวลาที่ลูกนอนตะแคง พอโตขึ้น เด็ก ๆ จะชอบกอดหมอนข้าง เด็ก ๆ บางคนติดหมอนข้างมากจนกลายเป็นหมอนเน่าอุ่นใจ ไปไหนต้องพกไปด้วย

  6. ผ้ารองกันน้ำ
    ผ้ารองกันน้ำหรือผ้ารองกันฉี่ เป็นตัวช่วยที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่ แต่ละบ้านจะต้องมีอย่างน้อย 2-3 ผืน เอาไว้ปูรองบนเบาะที่นอนหรือที่เปลี่ยนแพมเพิส เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกฉี่รดหกเลอะที่นอน เพราะช่วงแรกเกิด ถึงแม้จะใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หากแพมเพิสเต็มและคุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกไม่ทัน ฉี่อาจล้นแพมเพิสและหกเลอะออกมาได้ และช่วง 2-3 ขวบ เป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกให้ลูกเลิกใส่แพมเพิส ช่วงแรก ๆ ลูกอาจบอกเราไม่ทัน และอาจมีการฉี่รดที่นอนได้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใช้ผ้ารองกันน้ำบนเบาะที่นอนเสมอสมัยก่อน ผ้ารองกันน้ำก็คือผ้ายาง ทำจากยางพาราหรือยางสังเคราะห์ แต่ผ้ายางแบบสมัยก่อนมีข้อเสียมาก เช่น

     

    • ไม่ซึมน้ำ : เวลาฉี่หกเลอะ ก็จะเปียกนองอยู่บนผ้ายาง และบางครั้งอาจไหลหกเลอะเทอะออกนอกผ้ายางได้
    • ไม่ระบายอากาศ : ถ้าเอาผ้ายางมาปูรองนอน ก็จะร้อนมาก
    • ไม่นุ่มนิ่ม : ผิวสัมผัสของผ้ายางจะค่อนข้างมีความแข็งกระด้าง
    • ถ้าใช้ในห้องแอร์ ผ้ายางจะเย็น : ไม่เหมาะกับการเอามาปูรองให้ลูกนอนตอนกลางคืนในห้องแอร์


    จากข้อเสียของผ้ายางที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบัน จึงได้มีการพัฒนาผ้ารองกันน้ำหรือผ้ารองกันฉี่มาใช้แทนผ้ายาง โดยผ้ารองกันน้ำในปัจจุบันจะผลิตจากผ้า ไม่ใช่ยาง จึงมีคุณสมบัติที่ดีและเหมาะสมกับการใช้งานดังนี้

    • ซึมซับน้ำได้ดี : ผ้ารองกันน้ำที่ดีจะต้องสามารถซึมซับน้ำได้ดี เวลาลูกฉี่หกเลอะ ผ้ารองกันน้ำจะต้องทำหน้าที่ซับน้ำไว้ ไม่ให้นองเลอะเทอะอยู่บนผ้า
    • รองรับปริมาณน้ำได้เยอะ : ผ้ารองกันน้ำที่ดีจะต้องสามารถรองรับปริมาณน้ำได้เยอะ ฉี่จะได้ไม่ล้นผ้า
    • กันน้ำได้ 100% : ผ้ารองกันน้ำที่ดีจะต้องสามารถกันน้ำไม่ให้ทะลุผ้าได้ 100%
    • แห้งเร็ว : ผ้ารองกันน้ำที่ดีจะต้องแห้งไว เพื่อไม่ให้ผ้าเปียกแฉะนาน ลูกจะได้นอนบนผ้ารองกันน้ำได้สบายและหลับได้ต่อเนื่อง
    • ผิวสัมผัสนุ่มนิ่ม : ผ้ารองกันน้ำจะมีผิวสัมผัสที่นุ่มนิ่มกว่าผ้ายาง สามารถใช้ปูรองให้ลูกนอนได้สบายไม่อึดอัด
    • สามารถซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อย ๆ

หวังว่าบทความข้างต้นจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลและความสงสัย และเลือกซื้อเครื่องนอนให้ลูกน้อยได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่มีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมงาน Iflin Baby เพื่อปรึกษาและสอบถามเกี่ยวกับเครื่องนอนและของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิด เช่น เบาะที่นอน ผ้าปูที่นอนเด็ก ผ้าห่มเด็ก หมอนเด็ก ผ้าอ้อม ผ้าห่อตัวทารก ผ้าคลุมให้นม ผ้าพาดบ่า ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กแรกเกิด ผ้าห่มใยไผ่ และเครื่องนอนเด็กของ Iflin Baby ได้ที่

Line : @iflinbaby
Website : iflinbaby.co
Facebook : iflinbaby
Instagram : iflinbaby

ผ้าอ้อม

คลิก อ่านบทความเพิ่มเติม

ของใช้จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิด หมวดหมู่ผ้า คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมอะไรบ้าง EP.1